Skip to main content

News in:  BM | TH | CN

Published: 25 March 2021

บางพลีใหญ่ ขนส่ง

เติบโตมาอย่างมั่นคง เราอาจกล่าวคำนี้ได้ สำหรับบางพลีใหญ่ ขนส่ง ของคุณสุวิทย์ ดุรงค์พันธ์ ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง

ก่อนหน้าที่เราจะมาเยือนบางพลีใหญ่ ขนส่ง K-MAN Auto Service เพิ่งส่งมอบรถหัวลาก MAN จำนวนห้าคันให้กับบางพลีใหญ่ ขนส่ง เพื่อใช้งานขับเคลื่อนกิจการ เป็นเวลาสามสิบกว่าปีแล้วที่คุณสุวิทย์คลุกคลีอยู่ในแวดวงขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออก ที่ทำมาตั้งแต่แรกเริ่ม

คุณสุวิทย์ ย้อนความให้ฟังว่า ในยุคแรกที่ทำนั้นใช้รถหกล้อ สิบล้อ เพราะสินค้าที่จะส่งออกในสมัยนั้น รับจากต้นทางที่บริษัทของลูกค้า จากนั้นจึงวิ่งไปบรรจุตู้ที่ท่าเรือ ไม่ได้บรรจุตู้เรียบร้อยตั้งแต่ต้นทางก่อนไปท่าเรือเหมือนในยุคนี้ การขนส่งพัฒนามาตามลำดับ พร้อมๆ กับการเติบโตของบริษัทบางพลีใหญ่ ขนส่ง จากรถหกล้อ สิบล้อ มาสู่รถหัวลาก พร้อมหาง เพื่อลากตู้สินค้าของลูกค้า

ผู้คนในแวดวงขนส่ง มักจะเข้าใจว่าบริษัทของคุณสุวิทย์มีชื่อว่าพรโสภา เพราะรถของบางพลีใหญ่ ขนส่งจะติดชื่อบริษัทไว้ที่ประตูรถทั้งสองข้าง แต่บริเวณหัวรถตรงปีกหมวกบังลมว่าจะติดสติ๊กเกอร์ตัวใหญ่ว่า “พรโสภา” คุณสุวิทย์อธิบายให้ฟังว่า “พรโสภา” คือพรของแม่ คุณแม่ของคุณสุวิทย์มีชื่อว่าโสภา เพื่อความเป็นสิริมงคลในการทำงาน คุณสุวิทย์จึงนำชื่อของแม่มาติดไว้ที่รถทุกคัน พรโสภาในความหมายที่แท้จริงคือ พรของแม่นั่นเอง “พรโสภา” ถูกติดรถไว้ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจในยุคแรกเริ่ม

แน่นอนคำถามที่ผู้ประกอบธุรกิจแทบจะทุกหมวดน่าจะต้องโดนถาม สถานการณ์โดยรวมของธุรกิจ ในท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด คุณสุวิทย์บอกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในชีวิตที่ทำธุรกิจ ทุกๆ สิบปีจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นเสมอ “สำหรับบางพลีใหญ่ ขนส่ง จะเรียกว่าเป็นโชคดีก็ได้ ทุกครั้งที่วิกฤตมา เราผ่อนหนี้สินที่เป็นการลงทุนของเราหมดพอดีแทบจะทุกครั้ง”

สำหรับวิกฤตในรอบนี้คุณสุวิทย์บอกว่า ผ่อนที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งถาวรของบางพลีใหญ่ ขนส่งหมดพอดี ทำให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ นั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้บางพลีใหญ่ ขนส่งสามารถเติบโตมาอย่างต่อเนื่องนั้น ที่สำคัญคือมาตรฐานงานบริการที่บางพลีใหญ่ ขนส่ง มีให้กับลูกค้า ซึ่งคุณสุวิทย์ให้ความสำคัญและรักษาไว้ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินกิจการด้านการขนส่งภายใต้ชื่อบางพลีใหญ่ ขนส่ง

ลูกค้าสามร้อยกว่ารายที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาใช้บริการ เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญลูกค้าเก่าที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มก็ยังคงอยู่

ผลสำเร็จระยะยาวสำคัญกว่าผลสำเร็จระยะสั้น เมื่อมองถึงเป้าหมายระยะยาวคือการเติบโตอย่างยั่งยืน การเลือกรับงานของบางพลีใหญ่ ขนส่งจึงมองที่ประสิทธิผล คุณภาพ ไม่ใช่จำนวนเงิน นั่นคือบางพลีใหญ่ ขนส่ง มีมาตรฐานเรื่องราคาชัดเจนในการวิ่งงาน ไม่ลงไปเล่นเรื่องราคาเพื่อที่จะให้ได้งานมา ลูกค้าของบางพลีใหญ่ ขนส่ง ได้รับการบริการตามคิวที่จองเข้ามา ไม่มีเลือกว่าเจ้าเล็กเจ้าใหญ่ ปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเสมอภาค ไม่มีนโยบายที่จะกวาดรับงานทุกอย่างที่เข้ามาเพื่อทำตัวเลขอย่างเด็ดขาด เพราะคุณสุวิทย์มองว่าการทำเช่นนั้นไม่ส่งผลดีในระยะยาว หลังจากย้ายที่ตั้งมาหลายที่ ในที่สุดบางพลีใหญ่ ขนส่งก็สร้างสำนักงานถาวรบนพื้นที่สามสิบกว่าไร่ ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ แม้ว่าพื้นที่ทั้งหมดจะยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเหลือการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ลานจอดรถขนาดใหญ่พอท่ีจะรองรับรถทั้งหมดของบางพลีใหญ่ ขนส่ง โรงซ่อมบำรุงทั้งฝั่งเครื่องยนต์และฝั่งตัวถัง คลังอะไหล่ จัดวางอย่างเป็นระบบ อาคารสวัสดิการที่พักสำหรับพนักงานขับรถสองหลัง การลงทุนสิ่งต่างๆ ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมีมาตรฐานของบางพลีใหญ่ ขนส่ง ในการดำเนินธุรกิจ

ไม่เพียงเท่านั้น คุณสุวิทย์ให้ความสำคัญกับพนักงานขับรถ เพราะถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการดำเนินกิจการ อาคารที่พักที่ลงทุนหลายล้านบาท เพื่อให้ทีมคนขับรถได้พักอาศัย โดยจ่ายแต่เพียงค่าบำรุงรักษาส่วนกลางเดือนละพันกว่าบาท น้ำ ไฟ จ่ายตามการใช้จริง เพื่อที่จะให้คนขับมีเวลาพักผ่อนเต็มที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ขับรถกลับมาจากการวิ่งงานแต่ละวันจอดรถเสร็จ สามารถเดินเข้าที่พักได้เลย เมื่อคนขับพักผ่อนได้เต็มที่การทำงานก็มีประสิทธิภาพ

นอกไปจากนั้นบางพลีใหญ่ ขนส่ง ยังให้ความสำคัญกับเครื่องมือในการทำงานคือรถ ในฟลีทของบางพลีใหญ่ มีทั้งรถญี่ปุ่นและยุโรป ทั้งหมดเป็นรถใหม่มือหนึ่ง มีอายุการใช้งานที่ชัดเจน ครบกำหนดเวลาเปลี่ยนรถเก่าออกทดแทนเข้ามาด้วยรถใหม่ เหตุผลสำคัญคือคนขับ บางพลีใหญ่ ขนส่ง ดูแลคนขับเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เมื่อรถมีคุณภาพ คนขับไม่เหนื่อยมาก การขับขี่ก็มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย สินค้าของลูกค้าถึงที่หมายตามกำหนดเวลา ผู้ร่วมใช้ท้องถนนก็ปลอดภัย ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด แน่นอนว่าการใช้เครื่องมือมีคุณภาพ ราคาของบางพลีใหญ่ ขนส่งอาจสูงกว่าเจ้าอื่นๆ แต่ก็มีลูกค้าที่ยอมจ่าย เหตุผลสำคัญคือ เครื่องมือที่ดี คนขับที่ดี มาตรฐานงานที่ดี ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ ดีกว่าเลือกถูกแต่ต้องกังวลว่าสินค้าจะถึงปลายทางแบบไหน อย่างไร

“เราบอกลูกค้าถึงเหตุผลที่ราคาของบางพลีสูงกว่าคนอื่น” คุณสุวิทย์กล่าว “เราใช้รถดี คนขับเราไม่เหนื่อยในการเดินทาง คุณภาพในการขับรถเขาก็ดี สินค้าที่ขนส่งก็มีความปลอดภัยสูงในการไปถึงที่หมาย”

รถนับเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญ สำหรับบริษัทขนส่ง ล่าสุดก่อนพบกัน บางพลีใหญ่ ขนส่งเพิ่งรับมอบรถหัวลากแบรนด์ เอ็ม เอ เอ็น โดยมี K - MAN Auto service ตัวแทนจำหน่ายรถหัวลาก เอ็ม เอ เอ็น ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก เอ็ม เอ เอ็น จากเยอรมันอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีเอ็ม เอ เอ็น สีฟ้าสดใสห้าคันเข้าประจำการ ทำงานให้กับบางพลีใหญ่ ขนส่ง ซึ่งมาตรฐานของเอ็ม เอ เอ็น เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง มาในปีนี้จึงซื้อเพิ่มเข้าฟลีทอีกห้าคัน เพื่อเสริมศักยภาพในการทำงานวิ่งงานให้กับลูกค้าของบางพลีใหญ่ ขนส่ง

คุณสุวิทย์กล่าวว่า การเลือกใช้เอ็ม เอ เอ็น ไม่ใช่เหตุผลที่ว่ารถดีอย่างเดียว เรื่องคุณภาพรถของเยอรมันเป็นสิ่งที่การันตีได้อยู่แล้ว แต่ทว่าที่สำคัญคืองานบริการ ใครเป็นคนขายรถให้ ใครจะเป็นคนคอยดูแลตลอดอายุการใช้งานของรถ รายละเอียดตรงจุดนี้สำคัญมาก

เอ็ม เอ เอ็น ชุดแรกของบางพลีใหญ่ ได้รับการดูแลจาก K - MAN Auto Sevice อย่างดี ทำให้บางพลีใหญ่ ขนส่งสามารถทุ่มเทสมาธิไปกับการบริหารธุรกิจได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมาพะวงเรื่องการดูแลรถ แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่ารถญี่ปุ่น แต่คุ้มค่ากว่าเมื่อใช้งาน ทั้งค่าบำรุงรักษา คุณภาพ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือเมื่อไปวิ่งงานให้กับลูกค้า บางพลีใหญ่ ขนส่ง มีลูกค้าเป็นบริษัทมหาชน และบริษัทขนาดใหญ่หลายบริษัท ด้วยเหตุนี้การสร้างมาตรฐานในการทำงานทั้งเรื่องของทรัพยากรบุคคล และเครื่องมือในการทำงาน จึงมีความสำคัญ เพราะรถเมื่อไปวิ่งขนส่งสินค้าให้ลูกค้าถือเป็นภาพลักษณ์ส่วนหนึ่งของลูกค้าด้วยเช่นกัน โตไปด้วยกัน รูปแบบการวิ่งงานและการแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างบางพลีใหญ่ ขนส่ง กับคนขับรถ

คุณสุวิทย์เล่าให้ฟังว่าปัจจุบันการทำงานร่วมกันระหว่างพนักงานขับรถกับบริษัทคือ บางพลีใหญ่แบ่ง 45% จากราคางานที่รับมาแต่ละงานให้กับคนขับไปเลย น้ำมันเป็นของคนขับรถ มีข้อแม้ว่าคนขับต้องเติมน้ำมันกับบริษัท ในแต่ละเดือนบริษัทจะหักค่าน้ำมันในการวิ่งงานออกจากส่วนแบ่งแต่ละงานที่คนขับได้รับไป แรกเริ่มที่นำแนวความคิดนี้มาใช้ คนขับไม่คุ้นชินและมีต่อต้านอยู่บ้าง แต่เมื่อได้ลอง เริ่มต้นจากความสมัครใจผสมผสานรูปแบบใหม่กับรูปแบบเดิม ในท้ายที่สุดระบบใหม่แสดงผลให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์กับคนขับมากกว่าเดิม ทำให้ในท้ายที่สุดแล้วระบบการแบ่งปันค่าตอบแทนของบางพลีใหญ่ ขนส่งจึงเป็นการแบ่งสัดส่วนของค่าจ้างการขนส่งให้กับคนขับ 45% น้ำมันเป็นของคนขับ เป็นมาตรฐานในการทำงาน

ระบบนี้สร้างวินัยการขับรถขึ้นโดยปริยาย เพราะคนขับต้องการให้เกิดการประหยัดสูงสุดเพื่อเหลือส่วนต่างค่าน้ำมันกลับคืนสู่กระเป๋า เมื่อรถขับโดยไม่ใช้ความเร็วเกินความจำเป็น จึงนำมาสู่ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่ได้ประโยชน์ทั้งบริษัท ตัวคนขับ และส่วนรวมคือประชาชนผู้ใช้ท้องถนน

วันนี้บางพลีใหญ่ถือได้ว่ายืนอยู่ในจุดที่มั่นคง และยังรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่นที่คุณสุวิทย์กล่าว ความสำเร็จระยะยาวสำคัญกว่าความสำเร็จระยะสั้น